Welcome To Naka Nakee

พญานาคเป็นสัตว์กื่งเทพกื่งสัตว์เดรัจฉานซึ่งจะอยู่ต่ำกว่ามนุษย์แต่มนุษย์ถือว่าพญานาคนั้นอยู่สูงกว่าและมนุษย์จะบูชาพญานาคสำหรับพญานาคนั้นมี 4 ตระกูล ซึ่งทั้ง 4 ตระกูลนี้จะปกครองด้วยองค์ราชาใหญ่แห่งเจ้านาคาธิบดีทั้งหลายคือองค์ท้าววิรูปักษ์จะปกครองอยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาฝั่งทิศตะวันตก พญานาค 4 ตระกูลมีดังนี้ 1. ตระกูลวิรูปักษ์ เป็นนาคสีทองซึ่งจะอาศัยอยู่ตามถ้ำใต้บาดาลบ้างหรือองค์ท้าววิรูปักษ์ซึ่งจะอาศัยอยู่บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาถือว่าเป็นนาคที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเจ้าปกครองนาคตระกูลที่ต่ำกว่าอื่นๆอย่างถ้าเป็นตระกูลนี้ถ้าอยู่ตามใต้บาดาลก็เช่นพญาอนันตะนาคราชหรือพญามุจลินท์นาคราชและพญาเพชรภัทรนาคราช(เป็นโอรสเพียงองค์เดียวแห่งองค์พญาอนันตนาคราชและพระนางอุษาอนันตวดีเทวีพระชายาแห่งองค์พญาอนันตนาคราชพญาเกล็ดเเก้วทรงมีพระวรกายสีทองทั้งพระวรกาย)นั้นเอง และพญานาคตระกูลนี้จะเป็นการเกิดแบบโอปปาติกะหรือเป็นการเกิดแบบเกิดแล้วโตเลยเหมือนเทวดา 2 . ตระกูลเอราปถะ ซึ่งนาคตระกูลนี้จะเป็นนาคตระกูลสีเขียวเป็นตระกูลรองลงมาจากตระกูลวิรูปักษ์ อาศัยอยู่ตามสถานที่เร้นลับใต้บาดาล นาคตระกูลนี้เกิดแบบอัณฑชะคือเกิดจากฟองไข่แต่สามารถเป็นถึงองค์นาคาธิบดีอย่างเช่นเจ้าปู่ศรีสุทโธได้หากบำเพ็ญบารมีพอ และนาคตระกูลนี้ยังมีตำนานรักมากมายเกี่ยวกับนาคตระกูลนี้กับมนุษย์เนื่องจากเป็นพญานาคตระกูลที่พบปะได้มากที่สุดเนื่องจากขึ้นมาเมืองมนุษย์บ่อยที่สุดนั่นเอง 3 . ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลฉัพพยาปุตตะเป็นพญานาคสีรุ้งซึ่งไม่ค่อยพบบ่อยนัก เนื่องจากไม่ค่อยขึ้นมาบนโลกมนุษย์ และเป็นพญานาคที่เกิดแบบชลาพุชะคือเกิดจากครรถ์ มีถิ่นอาศัยอยู่ที่เร้นลับใต้บาดาล พญานาคตระกูลฉัพพยาปุตตะนี้มีวรกายเป็นสีโกเมนสุริยฉัตรประภัสสร ถ้าไม่ใช่สีอื่นที่ได้กล่าวมาเช่นสีทองสีเขียวและสีดำสามารถจัดอยู่ในนาคตระกูลนี้ได้เลยและเป็นนาคสีรุ้งที่สวยงามมากๆอีกด้วย 4 . ตระกูลกัณหาโคตะมะ สำหรับนาคตระกูลกัณหาโคตะมะนี้เป็นนาคตระกูลที่มีวรกายสีดำซึ่งถ้ารู้จักกันดีก็คงจะเป็นองค์ดําแสนสิริจันทรา มีถิ่นอาศัยที่เร้นลับหรือใต้บาดาลก็เป็นได้ และเกิดแบบสังเสทชะคือเกิดจากเหงื่อไคลสิ่งปฏิกูล แต่ถ้าหากบำเพ็ญเพียรบารมีและมีบุญมากก็สามารถเป็นราชาของพญานาคก็ได้ อย่างเช่นองค์ดําแสนศิริจันทราเป็นต้น .The serpent is a God of the Beast, a beast that is lower than humans, but humans consider that the serpent is higher and humans will worship the serpent for the serpent. There are 4 families of the serpent. The best thing is that the King Vukhavak will rule in the heavenly Jataka Maha Raja on the west side. Naga 4 families are as follows 1. The Vukhak clan It is a golden naga which lives in a cave underneath some or the Thao Vihak, which lives in the heavenly level of the Great Maha Chakra Rachika. If this is under the ground, such as Phaya Ananta Nakharat or Phaya Mujalin, Nakharat and Phaya Phetphattharakarat (the only son of Phaya Anantakarat and Queen Usa Ana Nattawadee Devi, the wife of the King of Anaya Anak Nak, the royal serpent has golden body and body) that And the serpent of this family would be an occult or an ascetic birth, like an angel 2. Erawat clan Which the Naga family is the green Naga family as the second family after the Vukhak family Live in a mysterious place under the ground This family of Naga was born in the form of an casal test, which was caused by an egg, but could be said to be such a good ruler, such as Chao Si Sutho. And the Naga family also has many love legends about this Naga family with humans because they are the most common Naga family, since they come to the human city most often. 3. Chakphaphaya Puthata clan The Naga of Chuphaya Phuttha is a rainbow serpent that is not often found. Due to not coming to the human world And was a serpent born in Chalapucha, namely from a son Inhabited under the groundwater The Naga of Chapphaya Phutta has a garnet color of Suriyachat Prapatson. If not the other colors mentioned above, such as gold, green and black, can be classified in this family of Naga immediately and is a very beautiful rainbow Naga. 4. Kuntahota clan For the Kantha Kota, the Naga family has a black body, which, if well known, would be the Black Queen Sansiri. Resident that is hidden or under the ground And the occurrence of leachate is caused by sweat, sewage, sewage But if practicing great prestige and merit, it can be the king of the serpent. Such as Ong Dam, Sansiri Chanthra etc. มาทำความรู้จัก..จอมกษัตริย์นาคา ๙ พระองค์.. ผู้ปกครองแห่งพิภพบาดาล เรื่องราว ปฏิหาริย์ในโลกนี้ ยังมีอีกมากที่คุณไม่รู้ หลายคนก็นึกว่าที่ตาเราเห็นนั้น คงมีเท่านี้ แต่ในความเป็นจริง ยังมีเหล่าเทวดาชั้นสูง ที่รอการนิพพานอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือพญานาค ที่มีอิทธิฤิทธิ์ ที่จะดลบันดาล ให้กับคน ที่เชื่อและมีความศรัทธา ได้พบกับความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต แต่การบูชานั้นต้องรู้วิธี ต้องรู้จักที่จะสื่อสารกับท่านได้ด้วยความเข้าใจที่ทุกต้อง. องค์นาคาธิบดีผู้มีบารมีสูงสุดทั้ง 9 พระองค์ มีพระนามดังนี้ 1. พญาอนันตนาคราช 2. พญามุจรินทร์นาคราช 3. พญานาคาหลวงพระบางศรีสุทโธ 4. พญาเกตุแก้วนาคราช 5. พญาสุวรรณนาคาราช 6. พญาภุชงค์นาคราช 7. พญานาคดำศิริจันทรานาคราช 8. พญามัสมันนาคราช 9. พญาคัตระศรีเทวานาคราช 1.พญาอนันตนาคราช พาหนะคู่บารมีของพระนารายณ์ คำว่า อนันตะ มีความหมายว่า อนันต์ ไร้จุดจบ มีความยาวมากถึงขนาดว่าสามารถพันรอบโลกได้แต่เดิมพญานาคราชมีพระนามเดิม ว่าพญาเศษะ นาคราช ทรงเป็นโอรสองค์แรกของพระกัศยปะ และ นางกัทรุ พญาอนันตนาคราชเป็นใหญ่ในเมืองบาดาลเป็นราชาแห่งนาคทั้งปวงในเกษียรสมุทรและ ได้ตามเสด็จพระนารยณ์เสมอ พญานาคอนันตนาคราช “พญานาคอนันตนาคราช” เป็นชื่อพญานาคซึ่งขดร่างเป็นแท่นให้พระนารายณ์บรรทมใต้เกษียรสมุทร เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าาเศษะ หรือ เศษนาค เป็นเจ้าแห่งบาดาล มี 1,000 เศียร สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 29 ได้เล่าถึง “พญานาคอนันตนาคราช” ว่า ประวัติของอนันตนาคราชแตกต่างกันไปหลายตํานาน ว่ากันว่าาพญานาคกับครุฑเป็นพี่น้องงร่วมบิดากัน คือ พระกัศยปะ แต่ต่างมารดากัน มารดาของนาคชื่อ นางกัทรุ มีบุตรเป็นนาค 1,000ตัว ตัวที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด คือ อนันตนาคราช ซึ่งเป็นพี่ชายใหญ่ เมื่อมีการกวนเกษียรสมุทร อนันตนาคราชก็ถูกเทพนํามาใช้เป็นเชือกพันเขามันทร ซึ่งใช้กวนเกษียรสมุทรให้เกิดน้ําอมฤต บางตํานานเล่าว่าอนันตนาคราชมีเพียง 8 เศียร และมี 8 หาง หรือ 1 หาง แต่ส่วนใหญ่กล่าวว่ามี 1,000 เศียร โลกตั้งอยู่บนเศียรของอนันตนาคราชหรือเศษนาค เมื่อเศษนาคกระดิกตัวก็จะเกิดแผ่นดินไหว ที่มาของเรื่องนี้อยู่ในมหากาพย์มหาภารตะ ซึ่งเล่าว่าาเศษนาคเป็นพี่ใหญ่ มีพญาวาสุกีแป็นน้องรองลงมา นาคน้อง ๆ ทั้งหลายกระทําบาป แต่เศษะใจบุญจึงได้หลบไปบําเพ็ญตบะอยูเป็นเวลานาน จนพระพรหมเสด็จมาประทานพรตามที่ขอ เศษนาคขอไม่อยู่ร่วมแผ่นดินกับน้อง ๆ พระพรหมจึงโปรดให้ไปครองเมืองบาดาล และเอาเศียรรองรับแผ่นดินไว้ อนันตนาคราชเป็นพาหนะของพระวิษณุหรือพระนารายณ์ โดยอยู่ในลักษณะขดเป็นแท่นบัลลังก์ เพื่อให้พระนารายณ์บรรทม ด้วยลักษณะเช่นนี้เองเป็นที่มาของพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ อีกตํานานหนึ่งเล่าว่าเมื่อสิ้นแต่ละกัลย์ เศษนาคจะเป็นผู้พ่นพิษไฟพิษไฟทําลายสัตว์โลกทั้งปวง แต่ตัวเองไม่ตาย จึงได้ชื่อว่า อนันตะ ซึ่งแปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด ตามไศวนิกายเล่าว่า เศษนาคเกิดจากสายธุรํา (สายเครื่องหมายวรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ และแพศย์ สวมจากซ้ายไปขวา เรียกว่า สายธุรํา, ธุหรํ่ายัชโญปวีต หรือ สายมงคล ก็เรียก) ซึ่งพระอิศวรทรงเปลื้องออกจากพระวรกาย ดังนั้นจึงเป็นพญานาคที่มีอิทธิฤทธิ์มาก อนันตนาคราชเคยเห็นพระอิศวรฟ้อนรำด้วยท่าอันงดงามและใคร่อยากจะชมอีก จึงทูลขอให้พระอิศวรทรงฟ้อนรําอีกครั้ง พระอิศวรจึงเสด็จลงมาฟ้อนรําในโลกมนุษย์ตรงที่ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิหารฮินดูชื่อ จิทัมพรัม ในอินเดียใต้ มนุษย์ได้จดจำท่ารำต่าง ๆของพระอิศวรไว้เกิดเป็นนตํานานฟ้อนรําของอินเดีย และพระอิศวรก็เป็นที่นับถือกันในชื่อ นาฏราช ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู อนันตนาคราช หรือเศษนาค นับเป็นนเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์องค์หนึ่ง ซึ่งชาวฮินดูนับถือพร้อมไปกับพระนารายณ์หรือพระวิษณุ มนตร์บูชาพญาอนันตนาคราช นาคเทวะ ปรี ตา ภวันติหะ คานติมาปโนติ เวน วิภี/ สัมศานติ โลก มา สาทยะ โมทเต ศาศติช สมาช// มนตร์นี้เป็นภาษาที่พราหมณ์อินเดียใช้ในการบูชาค่ะ และวันที่จะบูชาจะตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำเดือนศราวัน(เดือนกรกฏาคม-สิงหาคม)ของทุกปีค่ะ ซึ่งจะเรียกว่า"วัน นาค ปัญจมี " คาถาอัญเชิญพญานาค ตั้งนะโม 3 จบ นะมามิ ลิละ สาเข ปัตถะ ละปะ ธัมเม สะคะลับตี สะเยตานาคะ ลาเชนะยะ ปิสะโตฯ พระคาถาถวายการสักการะบูชา เอหิสังคัง ปิโยนาคะ สุปันนานัง มะยัง หรือกล่าวเฉพาะ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา (ชื่อพระนามอย่างเช่น องค์ วาสุกรีนาคราช,อนันตนาคราช,ภุชงค์นาคราช,นาคาธิบดีศรีสุทโธ,) วิสุทธิเทวาปูเชมิ ถ้าเป็นองค์นางพญานาคี ก็เปลี่ยนเป็น นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ (เช่น กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา วาสุกรีนาคราช วิสุทธิเทวาปูเชมิ หรือ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวาปูเชมิ หรือ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ) คาถาบูชาอีกบทหนึ่ง นาคเทวะ ปรี ตา ภวันติหะ คานติมาปโนติ เวน วิภี สัมศานติ โลก มา สาทยะ โมทเต ศาศติช สมาช หรือกล่าวย่อ คือ คัด สะ มะ อุ มะ (9 จบ) 2.พญามุจลินท์นาคราช ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า "มุจลินท์" อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก ๗ วัน มุจลินท์นาคราชในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด ๗ วัน พญานาคมีนามว่า "มุจลินท์นาคราช" มีอานุภาพมาก อยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์พฤกษ์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาศ พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ๗ รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้งล่วง ๗ วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า "ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือ ความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง" ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จออกจากร่มไม้มุจลินท์ ไปยังร่มไม้เกตุ อันมีนามว่า "ราชายตนะ" อันอยู่ในทิศทักษิณ แห่งต้นมหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุข ณ ที่นั้น สิ้น ๗ วัน เป็นอวสาน ในกาลนั้น ท้าวสักกะอมรินทราธิราช ทรงดำริว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้เสวยพระกระยาหารนับแต่กาลตรัสรู้มาได้ ๔๙ วันแล้ว จึงได้เสด็จลงมาจากเทวโลก น้อมผลสมออันเป็นทิพยโอสถเข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับผลสมอเสวย แล้วทรงสรีระกิจลงพระบังคม ทรงสำราญพระกายแล้ว เสด็จเข้าประทับยังร่มไม้ราชายตนะพฤกษ์นั้น. พญานาโคบุตรโคดม หรือ พญามุจลินทร์นาคราช เป็นพญานาคราชที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า ซึ่งมีการกล่าวถึงในพุทธประวัติและกล่าวในพระไตรปิฎกหลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว พระองค์ได้เสด็จไปตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ "มุจลินทร์" ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญามุจลินทร์นาคราชเจ้าวิสุทธิเทวา เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบ พร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของประวัติพระพุทธรูปปางนาคปรก สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ เป็นพญานาคราชที่อยู่ในตระกลูเอราปัถถะ มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู ปล้องพระนาภี(ท้อง) สีเงินยวง ส่วนพระเศียรเป็นสีทอง ถ้าในบริเวรประเทศไทยเรา พระองค์มักจะปรากฏ อยู่แถบลุ่มแม่น้ำปิง บริเวณจังหวัดตาก ลงมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ 3.พญาภุชงค์นาคราช พญาภุชงค์นาคราชเจ้าวิสุทธิเทวา เป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือ พระอิศวรเจ้า อยู่ในตระกลู วิรูปักษ์ มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู พระนาภี และ พระเศียรเป็นสีแดง มีพระเศียร ตั้งแต่ ๑ ,๓ ,๕ ,๗ ,๙ แล้วแต่ปางค์ แต่ส่วนใหญ่ที่ปรากฎให้เห็น คือ ๑ เศียร และ ๗ เศียร ......... มีพระอัครมเหสี คือ พญานาคิณีเทวีศรีปางตาล ( แม่ย่าทองคำ ) ซึ่งเป็นพญานาคิณีประจำองค์แม่พระอุมาเทวี มเหสีของพระศิวะเทพ ประวัติปู่ภุชงค์นาคราช พญาภุชงค์นาคราชเจ้าวิสุทธิเทวาเป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือพระอิศวรเจ้าอยู่ในตระกลู วิรูปักษ์ มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู พระนาภีและพระเศียรเป็นสีแดง มีพระเศียร ตั้งแต่ ๑ ,๓ ,๕ ,๗ ,๙ แล้วแต่ปางค์แต่ส่วนใหญ่ที่ปรากฎให้เห็นคือ๑เศียรและ๗เศียรมีพระอครมเหษีคือ พญานาคิณีเทวีศรีปางตาล ( แม่ย่าทองคำ ) ซึ่งเป็นพญานาคิณีประจำองค์แม่พระอุมาเทวี มเหสีของพระศิวะเทพ พญาภุชงค์นาคราชมีอุปนิสัยตรงไปตรงมา ดูภายนอกมองว่าท่านดุแต่แท้จริงแล้วท่านใจดีมาก รูปร่างสง่างาม อายุเปรียบกับคนอายุราว ๕๐ กว่าๆ ท่านชอบศึกษาธรรมเป็นนิสัยหลังจากสละจากกษัตริย์แล้วท่านได้บำเพ็ญตบะเป็นฤๅษีและได้บำเพ็ญมาถึงทุกวันนี้ ส่วนท่านอาศัยอยู่น่านน้ำอ่าวไทยตลอดถึงอันดามันคือน่านน้ำเข็มและได้อยู่ตามถ้ำต่างๆทั้วประเทศจึงได้พบเห็นว่าท่านอยู่แถบทุกภาค ของประเทศ ในขณะเดียวกันท่านได้เป็นฤๅษีในชั้นพรหมมีวิมานอยู่ที่พรหมโลก หนึ่งในมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในสามพระองค์ อันได้แก่ พระพรหม ( ผู้สร้าง) พระนารายณ์ ( ผู้รักษา) ลัทธิไวษณพ นิกาย นับถือพระองค์เป็นเทพสูงสุด พระศิวะ (ผู้ทำลาย(ความชั่วร้าย))ลัทธิไศยวนิกาย นับถือพระองค์เป็นเทพสูงสุด ถ้าสามพระองค์รวมกัน จะเป็นพระตรีมูรติ อิทธิพลของมหาเทพทั้งสามพระองค์มักจะเกี่ยวข้องกับคนไทยมาช้านาน โดยเฉพาะช่วงสมัยการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระนามของพระองค์ มักจะปรากฎในพระนามของพระมหากษัตริย์ และพระราชวงษ์ รวมทั้งสถานที่สำคัญๆ เช่น สมเด็จพระรามมาธิบดี....( พระราม - พระนารายณ์) สมเด็จพระราเมศวร ( พระราม - พระอิศวร ) สมเด็จพระนเรศวร ( พระนารายณ์ - พระอิศวร ) เป็นต้น ปู่ภุชงค์นาคราช มีหลายพระญาณบารมี เสมือนมีหลายปางแต่ละภาคปาง ก็ต่างกัน ภาคปางที่เป็นกษัตริย์ท่านมีนิสัยเจ้าชู้ มักมากในกามารมณ์ ** ส่วนที่บำเพ็ญตบะเป็นฤๅษีท่านมีความเมตตาชอบสอนธรรมะ และโปรดที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์ ** การที่พญานาคส่วนใหญ่นั้นเสพกามคุณ เป็นเพราะว่าการที่เสพกามนั้นจะได้ยังชีวิตอยู่ไปได้ ** ส่วนนาคที่ไม่ได้เสพกามคุณนั้น จะทำให้เวียนว่ายตายเกิดในชาติภพภูมิต่อไป ทั้งที่มาเกิดเป็นมนุษย์โลก และ ตามภพภูมิต่าง ๆ **เหตุนี้จึงทำให้กษัตริย์ อธิบดี ผู้ที่ปกครองเมืองนาคราชต่าง ๆ จึงมีพระมเหสี และ พระสนมมากมาย และบางท่านบางพระองค์ยังคงมีพระชนม์มายุตั้งแต่พระพุทธเจ้าองค์แรกจนถึงปัญจุบัน **บางคนมาถามถึงเรื่องพญานาคว่าทำไมถึงผูกพันและศรัทธาตัวท่านมาก… อาจจะเป็นความผูกพันกันมา ได้เคยรับใช้รึว่าเป็นบุตรธิดา มเหสี นางสนมของท่านก็เป็นไปได้นะครับ 4.พญาศีรสุทโธนาคราช นาคาศรีสุทโธ และ นาคีศรีปทุมมา เป็นพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ในประเทศไทย เป็นพญานาคราชขององค์อินทราธิราชเจ้า "มีพรหมประกายโลก" หรือวังนาคินทร์คำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเวียงวังที่ประทับ องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ มีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล จึงมีผู้คนไปกราบไหว้ บนบานศาลกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ประชาชนที่เคารพศรัทธามักจะเรียกท่านว่า "จ้าวปู่ศรีสุทโธ" และ "จ้าวย่าศรีปทุมมา" องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แผลงเศียรได้ 9 เศียร ส่วนองค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณีผู้เป็นชายาแผลงเศียรได้ 5 เศียร ทั้งสององค์โปรดปรานการฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์มาก และเนรมิตวรกายเป็นเศียรเดียว หรือเป็นมนุษย์ก็ได้ ดั่งคำโบราณอีสานกล่าวว่า "นามนาคนั้นข้างขึ้นเป็นคน...ข้างแรมเป็นนาค" ทั้งองค์ศรีสุทโธและองค์ศรีปทุมมาอยู่ในตระกูลเอราปถะ วรกายของทั้งสององค์มีสีเขียวมรกตและสีเขียวตองอ่อน คาถาบูชา ปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ นะโม 3จบ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ทุติยัมปิิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ตะติยัมปิิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ เมตตัญจะ จะมหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธปริตตัง. คาถาบูชา เจ้าย่านางพญานาคิณี ศรีปทุมมา (คู่บารมีของปู่ปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ) นะโม 3จบ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวี ปูเชมิ ทุติยัมปิิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ตะติยัมปิิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวา ปูเชมิ เมตตัญจะ จะมหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธปริตตัง.. ทั้งหมดนี้ท่านไม่ได้อยู่ในบาดาล แต่อยู่ในวิมานชั้นฟ้า 5.พญาศรีสัตตนาคราช พญาศรีสัตตนาคราชเป็นหนึ่งในพญานาคผู้มีฤทธิ์ ทรงศักดาอานุภาพ นามของพญาศรีสัตตฯ นี้ก็ปรากฏพบในตำนานอุรังคธาตุเช่นกันความดังนี้ว่า..... พระศาสดา ก็เสด็จไปสู้ดอยนันทกังรี ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางนันทยักษ์แต่ก่อน มีนาคตัวหนึ่ง ๗ หัว ชื่อว่าศรีสัตตนาค เข้ามาทูลขอให้พระศาสดาทรงย่ำรอยพระบาทไว้ ณ ที่นั้น ทรงก้าวพระบาทข้ามตีนดอยก้ำขวาแล้วทรงแย้มพระโอฐ เจ้าอานนท์กราบทูลถาม ตถาคตตรัสว่า เราเห็นนาค ๗ หัวเป็นนิมิต ต่อไปภายหน้าที่นี้จักบังเกิดเป็นเมือง มีชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาค 6.พญาเพชรภัทรนาคราช หรือ พญาเกล็ดแก้วนาคราช พญาเพชรภัทรนาคราช พญาเพชรภัทรนาคราช โอรสบุตร เพียง พระองค์เดียว ต่อองค์พญาอนันตนาคราช และ พระนางอุษาอนันตวดีแต่ ทรง มี พระ ขนิษฐา และ อนุชา ต่างพระมารดามากทรงเป็น โอปาติกะจุติพระวรกาย สีดั้งเดิม คือ ทอง ตามพระมารดาท่าน พระมารดาท่านเป็นราชธิดาแห่งองค์ท้าววิรูปักษ์และพระนางนพเกตุนาคินีเทวี ตระกูลวิรูปักษ์ เกล็ดเพชรนี้ท่านได้จาก บารมีปฏิบัติแผ่พระเศียรแสดงบารมีได้ 9 เศียร ทรงเชี่ยวชาญช่ำชองในการรบมาก เมื่อครั้งสงครามเทวะคราต่างๆ พญาเพชรภัทรจะทรงเป็น 1 ในแม่ทัพใหญ่นำรบเสมอ ทรงได้รับประธานพระขรรถ์วิเศษจากฤษีเทพอัศดร และ มีครูบาอาจารย์เทพพรหมฤษี ประสิทธิวิชา มากมาย 7.พญานาคดำแสนสิริจันทรานาคราช นาคราช ทรงเป็นพระราชโอรสพญาศรีสัตตะนาคราช กษัตริย์ฝั่งโขง 1 ในนาคาธิบดีทั้ง 9 กับ พระนางมธุรินรดีเทวีราชธิดา พญาอนันต์นาคราช ท่านพญาเพชรภัทรนาคราชทรงเรียกพระองค์ว่า เจ้าชายเล็ก พระวรกายสีดำอมส้มองค์นี้มีหอกทองคำปลายเป็นเพชร เป็นอาวุธ สิริโฉมมาก หวงน้องสาว แต่เจ้าสำราญชายามาก ทรงเก่งทั้งบู้และบุ๊น คล่องแคล่วปราดเปรื่องและว่องไวดุจสายฟ้า ทั้งยังมีคุณธรรมและคุณงามความดี พระชายาวิชุราอารฎีเทวี ทรงเป็น1 ใน พระราชธิดาแห่งพญาอนันตนาคราช ผู้เป็นพระชายาคู่บารมี 8.พญายัสมันนาคราช พญายัสมันนาคราช หรือ พระนามเต็ม พญายัสมันรายะนาคราช เป็น พระราชโอรสในพญาอนันตนาคราช และ เจ้านางสรัอยแสงคีรี ตระกูลวิรูปักษ์ ทรงเป็นพระอนุชา สหายร่วมรบกับพญาเพชรภัทรนาคราช พญาภาคินทร์นาคราช และ พญานฤบดินทร์นาคราช พญายัสมันนาคราช เจ้านั้น เก่งวิชาทางรบ มนต์นาวี มีเทพเจ้าแห่งสมุทรประสิทธิวิชาใหั ถ้าว่าด้วยเรื่องรบโดยพลังแห่งน้ำแล้ว ท่านถือเป็นเอกในด้านนี้ พญายัสมันนาคราช ทรงมีความดีความชอบ ต่อสู้กับเพชรพญาธรอัคคี ซึ่งไปลักลอบขโมยตำราจากหอมนตรา ของปู่ฤษีสีหโคดม และก่อกองกำลังคนธรรพ์ ยึดครองเมืองพญานาคใหญ่นัอยถึง 4 เมือง เป็นบัญชาในท้าวสักกะเทวราช ให้พญายัสมันนาคราชยกทัพไปจัดการ เมื่อชนะศึกในครานั้น และ อีกหลายความดีความชอบ จึงได้ทรงยกย่องท่านนั้นเป็น 1 ใน 9 องค์นาคาธิบดี ทรงเป็นกษัตริย์นาคินทร์ปกครองดินแดนแทบมาเลยเซีย สิงคโปร์ สีพระวรกาย เขียวอมน้ำเงินปลัองพระนาภีสีทอง ปลายหางสีแสด สีพระเนตรสีแดงแสดพญายัสมันนาคราชที่ไม่มีพระชายานั้น ก็ด้วยท่านมิทรงสมหวังกับพระนางผู้เป็นที่รัก คือ พระนางมุญารินทร์รณีเทวี ราชธิดาใน พญาภุชงค์นาคราช และ พระนางทองคำศรีปางตาล เนื่องจากเจ้าปู่ภุชงค์ทรงหวงราชธิดาองค์เล็กมาก เมื่อมิอาจครองรักกัน และ มิอาจจะขัดพระประสงค์ของเจ้าปู่ภุชงค์จึงทรงจำศีล เก็บพระองค์เป็นนาคเทวราช คู่พระทัยองค์อัมรินทร์ 9.พญาครรตระศรีเทวานาคราช ประวัติและลักษณะไม่ทราบชัดเท่าไหร่นัก แต่ที่ทราบคือ ทรงมีพระชายาคู่บารมีพระนางศิริมายานาคินีเทวี ราชธิดาพญาวาสุกรีนาคราช นั่นเอง **ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลบ่างส่วนได้มาจากครูบาอาจารย์ ยังมีอีกเยอะที่จะต้องนำมากล่าวถึงองค์พญานาคราช เดี๋ยวให้ข้าพเจ้า ได้ข้อมูลมาเพิ่ม จะนำมาลงอีกครับ*** Let's get to know .. King of the Nakha 9 King .. Ruler of the Underworld The story of the miracle in this world There is still a lot you do not know. Many people think that our eyes are as much as this, but in reality There are still high class angels. Waiting for many more Nirvana One of them is the serpent. That has a magical power To inspire those who believe and have faith Find happiness Prosperity in life But the worship must know how Must know to communicate with you with an understanding that all must His Majesty the King has the most prestige of the 9 names are as follows. 1. Phaya Anantanakharat 2. Phaya Mujarin Nakaraj 3. Phaya Naga, Luang Prabang, Sri Suttho 4. Phaya Ketkaew Nakaraj 5. Phaya Suwan Nakarat 6. Phaya Phuchongnakaraj 7. Naga Dam Sirichantra Nakaraj 8. Phaya Maman Nakaraj 9. Phaya Kardasri Deva Nakaraj 1. Phaya Anantanakharat The majestic vehicle of Vishnu, the word Ananta, means infinitely infinite. It is so long that it can be wrapped around the world. In the past, the Naga was originally named Paya Zekharaj, the first son of Kak. And Mrs. Gattarapaya Anantanakarat is a great city in the underworld, the king of all the naga in the ocean and Always followed His Majesty Naga Anantakarat "Naga Anantanakarat" is the name of Naga, which curled up into a pedestal for Lord Vishnu to lie down under the Retreat of the Sea. Also known as a god or a naga, the Lord of the Underworld. There are 1,000 heads. The 29th edition of the Royal Encyclopedia of the Thai Encyclopedia described the "Naga Anantakaraj" that the history of Anantakaraj was different in many respects. It is said that the Naga and Garuda are brothers and sisters, namely Gautama Buddha but each mother. The mother of Naga named Mrs. Guthru has 1,000 sons, the most famous being known as Ananta Nakarat, who is the big brother. When there is agitation Anantanarat was used by a deity to use a rope to wrap him around. Which is used to irrigate the sea Some Tamnan say that Anantakarat has only 8 heads and has 8 tails or 1 tail, but most say it has 1,000 heads. The world is situated on the head of Anantanarat or the Naga fragments. When the nagging wagging, the earthquake will occur The origin of this story is in the epic Mahabharata. Which said that Naga fraction is the big brother There are two brothers and sisters, followed by Naga. All sins committed sins. But Zehas philanthropist has fled to Pen To Pen for a long time. Until the Brahma came to bless as requested Nak Naga asked not to share the land with the Brahma brothers, therefore, please go to rule the underworld city. And with his head to support the land Anantanakharat is the vehicle of Vishnu or Vishnu. In the form of a coil of throne For Narai to sleep With this characteristic, it was the origin of Narai Bannsin. After another it was told that at the end of each bay Naga fragments will be fire spray, fire poisoning, destroying all animal world But I do not die Therefore was called Ananta, which means endless According to the Shiva sect says Naga fragments from the chain (The line symbol of the caste, Brahmin, the king and the lion wearing from the left to the right, called Thura, Thurajajayotawet or sacred line, also called) which Shiva separated from the body Therefore it is a very powerful serpent. Anantanarat has seen Shiva dancing with beautiful postures and wishing to see again. Therefore requesting Shiva to dance again Shiva then came down to dance in the human world, where it is now the site of a Hindu temple called Jitumram in South India. Of Shiva was born as the longest dance dance of India And Shiva is revered in the name of the dancer, based on the belief of the Hindu Anantanakarat or Naga fragments. It is considered a powerful deity. Which Hindus respect along with Vishnu or Vishnu Mantra worship Paya Anantakarat Nak Nakwa Prawapawan Vantihakhantima Panotiviviphee / World peace, Masatya Motteksat Smash // This spell is the language that the Indian Brahmin used to worship. And the day of worship will be on the 5th day of the lunar month of the month (July-August) every year. Which will be called "Naga Panjami" Incantation to summon Naga Set Namo 3, Ending, Mamililasa, Smacking, Lapatham Thamesa, Secret City, Yeatana Kalachenaya Pisato Incantation Ehhangkang Piyonakasupanangmayang Or specifically Kaya Wa Jajitang Ahang Wantha (names such as Ongkarakri, Nakharat, Anantanakarat, Puchongnakarat, Nakathibodi Srisuttho,) If it is the Queen of Nakhi Change to Queen Nangini, Sri Pathum Wisut Dhevi Puchemi (Such as Kaya Wa Chajitang Anangwantawan Kasemnakaraj Wisut Thewa Puchemi Or Kaya Wa Jajitang, Ang Wanthana Nakathibodi Srisutho Wisut Thewa Puchemi Or Kaya Wa Jajitang Ahang Wantha, Nang Phaya Nakini Sripathma Wisut Dhevi Puchemi) Another incantation Nak Nakwa Prawapawanti Hantima Panotivienwiphee Samsatilok Mamasatayamotte Satishammasam Or to summarize is to copy Samauma (9 times) 2. Phaya Mujalin Nakaraj After about seven days, he sat in a cross-legged sitting in the shade of a tree called "Mujalin". Located in the east or southeast direction Of Maha Pho trees Saviwimuthi was there for 7 days. Mujalin the nakaraj at that time rained throughout the 7 days. The serpent was named "Mujalin Nakaraj" is very powerful. In the pool of the wave Near the Mujinlapruek tree With devotion to Phra Siri Wilasat Along with the glorious glas Then approached and coiled into his body The Lord Buddha's round of 7 rounds and spread a great destruction Covering the head of his head To prevent the wind and the rain to touch the body After 7 days, the rain was cured and the serpent loosened his body and became a man. Went to offer Anchalee in front of him His Highness exclaimed. "Happy sentiment For those with a fair view Happy to stay Be realistic Non-invasiveness is the accumulation in all animals. And without fidelity, that is, all things can be done in all things blessed. Meaning that he was exalted completely. " After 7 days, then he left the shade of Mujinl Go to the shade of Ketai which has the name "Ratchatana" in the direction of Thaksin Of the Maha Pho tree At that time, at the end of 7 days, was the end. At that time, the Sakamamarinthirathiraj thought that the Lord Buddha had not eaten food since the Enlightenment has been 49 days. Therefore descended from the earth Bow to the anchor which was the offering of Dhipaya The Highness received the anchor. And then physically laid down his obeisance He rejoiceed his body. Entered in the shade of the royal tree Phaya Naga, Khutabut Kom, or Phaya Mutchalin, Naga Is a royal serpent associated with the Lord Buddha Which is mentioned in the biography of the Lord Buddha and in the Tipitaka after the Lord Buddha's Enlightenment He went through various cities. To preach On one occasion he went out from the shadow of the Tupal Nilpa tree. Went to the umbrella tree named "Mujin" and sat down to eat liberation for 7 days. At the same time, there was rain. Comprised of cold wind throughout the 7 days, there was Phaya Mullinnagarach, Lord Wisutthewa Get in the loop with 7 turns. Along with spread the cover of the Buddha In order to prevent rain and wind from touching the body After the rain had disappeared and then unloaded the hair, transformed into a man and stood before him. With fervent faith This event is therefore a part of the history of the Buddha image of the Naga. For those born on a Saturday Is the Naga of Raja in the Blue Mountains With a gray body color The joint of the Naphi (belly) is silver, while the head is gold If in our country Hes often appears In the area of ​​the Ping River Basin Tak Province Descending to the Chao Phraya River Nakhon Sawan Province 3. Phaya Phuchong Nakharat Phaya Puchong Nakharat Chao Wisut Thewa Is the royal serpent of Lord Shiva, deity, or Shiva. You are in the sky, with a gray body, Hindu Napa and the head red, with the head from 1, 3, 5, 7, 9, depending on the position. Most of the things that appear are 1 head and 7 head. ......... The Empress Dowager Queen is Phaya Nakini Devi Sri Pang Tan (Mae Yai Thong), a Phaya Nakini of the Mother of Uma Devi. Consort of Lord Shiva Biography of Puchong Nakaraj Phaya Puchong Nakaraj, Wisuttiwa, is the royal serpent of Lord Shiva. Or the Lord Shiva in the blue roof with Hindu gray body The head and head are red, with head from 1, 3, 5, 7, 9 depending on the post, but most of them appear to be 1 head and 7 head. Phaya Nakini Devi Sri Pang Tan (Mae Ya Thongthong), a Phaya Nagini of the Lady Uma Devi Consort of Lord Shiva         Phaya Puchong Nakharat has a straightforward personality. Looking at the outside, he looks fierce, but actually he is very kind. Elegant shape His age is comparable to those aged around 50. He likes to study Dharma as a habit. After taking from the king, he has practiced ascetics and ascetics and has practiced to this day. As for you, you live in the Gulf of Thailand all the way to the Andaman, which is the needle of the sea and you are in caves all over the country, so you can see that you are in every region of the country. One of the three great gods, namely Brahma (creator) Vishnu (the keeper) of Vishnu sect respects him as the supreme deity. Shiva (the destroyer (evil)) Shiva Respect His Highness If three of them combined Will be Trimurti The influence of the three great gods has long been associated with Thai people. Especially during the absolute monarchy period His name Often appearing in the name of the King And royal circle Including important places such as Somdet Rama Mathibodi .... (Rama-Narai), Somdej Phra Rametwor (Rama-Shiva), King Naresuan (Narai-Shiva) etc. Grandfather Puchong Nakaraj There are many mystics. As if there were many Pang, each part is different. Pang is the King. Incontinence ** Asceticism is an ascetic. He is kind to teach Dharma. And please help humankind ** The majority of serpent eat erotic things. Because of the desire to eat that life ** As for the Naga who did not use that sexual desire Will cause death to circulate in the next life Both who were born as humans in the world and in various worlds ** For this reason, the King, Director-General, who governs the city of Naga, has many wives and concubines, and some of you still live from the first Lord Buddha to the present. ** Some people come to ask about the serpent why they are so attached and your faith ... May be a bond Have you ever served as a daughter or concubine of your concubine? 4. Phaya Suryasthonakaraj              Nakasri Suttho and Nakee Sripathum Is a great serpent in Thailand Is the Naga of the Indra King "There is a sparkling world" or Wang Nakarin Khamchanot, Ban Dung District, Udon Thani Province Is a walled palace      Ong Nakathibodi Srisutho With emerald green, golden heads, highly merciful to worshipers If praying for things that are not intrusive to others, will be successful. So people went to pay their respects Many vowing      Respected people often call him "Lord Grandfather Sri Suttho" and "Grandmother Sri Pathum Maha" Lord Nakathibodi Sri Suttho is a great Maha Naka, who has nine heads, and the Queen Sri Manathani, who is the wife of the Sangha Crown. Both of them enjoyed listening to the dharma from the monks. And transformed the body into a single head Or be a human Like the ancient Isaan words that "The name of the Naga is up, a person ... waning the moon is a serpent." Both Srisutho and Sripatum were in the Erapatha family The bodies of both were emerald green and light green. Incantation for the Sacred Reverend Grandfather Nakathibodi Srisutho Namo 3 ends Kayawa Chajitang Anangwan Thanakathibodi Srisutthawisuthi Deva Puchemimi Duttiyam Pikayawa Chajitthanangwan Thanakathibadi Srisuttho Wisuttiwewa Puchemimi Tatiyam Pikikawa Wajitthang, Anantawan Thanakathibadi, Srisuttho Wisutthi Deva Puchemimi Mettacha will Maha Lapopiyonaka Khantaparitang. Incantation for Chao Phraya Nang Nangini Sriprathama (the grandfather of Grandfather Nakathibodi Srisutho) Namo 3 ends Kayawajajitang Ahangwantha, Nang Phaya Nakini Sripathumavisutthi Devi Puchemi Duttiyam Pikawawa Chajitthanangwantha, Nang Phaya Nakini Sripathumavisutti Deva Puchemi Tatyam Pikikawa Wajitthanangwantha Nang Phaya Nakini Sripathumavisutti Deva Puchemi Mettacha will Maha Laphapiyonaka Khanathapitang .. All of this you are not in the deep. But in the heavenly castles 5. Phaya Srisattakharaj Phaya Si Sattakarn is one of the powerful serpent. Might The name of Phaya Srisatt This also appears in the legend of the Orang element as follows: ..... The Master went to fight against Doi Nanthangari Which was the home of Nantha Yak before There is one 7-head serpent named Srisattanak. 6. Phaya Phetphatthanakhron or Phaya Kred Kaew Nakarat Phaya Phet Phatra              Phaya Pet Phatthanarakra, the only son of Phaya Anantanakarat and Queen Usa Anantawadi, but His Highness's younger brother and younger brother is Opika reincarnated the original body color, gold, according to his mother. Mother is a daughter of Thao Vijak and Nop Ketnakini Devi. Family This diamond you can get from Acts that extend his head. Perform acts of excellence. 9 Head expert, expert in battle. When the wars of various gods Phaya Phetphat will always be one of the warlords. His Highness received the wonderful president from the hermit, the exclamator and many teachers of thep Thep Promi Prasitwichit.   7. Black Serpent Sansiri Chanthra Nakaraj   Naga is the son of Phaya Si Sattaka. King of the Mekong River 1 in the Nakathibodi 9 and Queen Maduradi Dhevi Rajathida Phaya Anan Nakaraj   Phaya Phetphatthanarakach called him the small prince. This black-orange body had a golden spear at the tip of a diamond as a weapon of glory. He is good at both boot and book. Active and active like lightning Both virtue and virtue His Highness Phra Chaya Wichura, the great Goddess, is one of the daughters of Phaya Anantanakarat. The majestic lady   8. Phaya Yat Mun Nakaraj   Phaya Yaman Nakaraj, or full name, Phaya Yaman Munaya Nakaraj is the son of Phaya Anantakaraj and Chao Saroi Sangkhiri Family     Is a brother Friends fight with Phaya Phetphatra Nakaraj Phaya Phakin, Nakharat and Phaya Naru Badin, Nakharat Phaya Yat Mun Nakarak is good at martial arts practice. If it were about the battle by the power of water He is considered a prime minister in this field.        Phaya Yat Mun Nakarat His Highness has achieved Fight with Phayathorn Fire Which smuggled texts from Hom Of Grandfather Ruesi Khodakom And constructing the Buddhist forces Capture the Naga City of 4 large Naga cities as a commander in the Thak Sak Thewarat Let Phaya Yat Manakarak to lead his army         When winning the battle at that time and many other achievements         Therefore praised him as 1 in 9 bodies His Majesty was the King of Nakin, ruling almost all the territories. Zia Singapore, the body color of green and blue, the golden crown of the tail, the color of the eyes and the red eyes Because he was not happy with her beloved Queen Mourarin, Ranee Dhevi, the daughter in Phaya Phuchongnakaraj and Golden Pang Tan Because Puch Puchong is very possessive of a young daughter When you may not love each other and may not be against the wishes of Chao Pu Puchong, then remember Keeping His Majesty as the Naga Amarin's lover          9. Phaya Nakhra Sri Deva Nacarat          The history and characteristics are not very clear. But what is known is His Majesty the Majesty the Queen's Majesty the Queen Rajabhataya Phaya Wakhurakritnakhara ** This information is a part of the data obtained from teachers. There is still much more to be said about the Naga. Wait for me Get more information Will be brought down again ***